ทำโฆษณา Google Search หาอะไรก็เจอ ตอนที่ 1

ทำโฆษณา Google Search ยังมีความสำคัญอยู่มากๆ ในปัจจุบันนี้ ถึงแม่ว่าจะมีโฆษณาหลาย Platform มาให้เราเลือกใช้ เช่น Facebook, Line Official Account, Instragam, Youtube หรือ กระทั้งน้องใหม่มาแรงอย่าง Tiktok ผมนั่งไล่เช็คดูว่า Google ได้ปล่อย Search Engine ตัวนี้ครั้งแรกในปีไหน (จาก www.worldstream.com) คือ ตั้งแต่ 1998 ทราบหรือไม่ว่า Google Search กำเนิดบนโลกใบนี้มาร่วม 23 ปีแล้ว มีการค้นหาถึง 3.5 พันล้าน/ต่อวัน และกิน Marketing Share ทั่วโลกถึง 92% ในประเทศไทย (อ้างอิงจาก Truehits.com, 7 กค 64) มีการใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเว็บไซต์มากถึง 99.95% จำนวนครั้งการค้นหา 14,997,571 ครั้ง/วัน จำนวนการเยี่ยมชม 54.55 ล้านฮิต เรียกได้ว่า Google Search เป็นเจ้าผู้ครองโลกเลยก็ว่าได้ ที่นี้ เรามาเข้าเรื่องการทำโฆษณา Google Search กันเลยดีกว่า

ทำโฆษณา Google Search เหมาะกับขนาดธุรกิจประเภทไหนบ้าง

เหมาะกับธุรกิจทุกประเภทเลยก็ว่าได้ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกับธุรกิจบริการ เช่น ช่างซ่อมแอร์ รับเหมาตกแต่ง ทำไฟ ช่างทำกุญแจ บริการที่แก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ คือ คนมีความต้องการซื้ออยู่แล้ว เช่น แอร์ที่บ้านเสีย จะหาช่างมาซ่อมแอร์ คนก็จะต้อง Search เพื่อหาช่างใกล้บ้านมาซ่อมให้ จะต่างจากโฆษณาที่ใช้ภาพ banner หรือ วีดีโอ ใน Google, Facebook, IG หรือ Tiktok ที่จะเป็นการแทรกโฆษณาภาพหรือวีดีโอให้คนเห็น แต่คนเมื่อคนเห็นโฆษณาพวกนี้แล้ว จะมีความต้องการซื้อเลยหรือเปล่า ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ต้องวัดดวงกับการตั้งค่าหากลุ่มเป้าหมายและการตั้งค่าอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยเกี่ยวข้อง อีกอย่างหนึ่งของการทำโฆษณา Google Search ที่ทำได้ดี คือ เป็นการสนับสนุนโฆษณาพวกภาพ (banner) และวีดีโอ เช่น เรากำลังดูหนัง ใน Youtube แล้วมีโฆษณาแทรกเข้ามาเป็นภาพรองเท้าวิ่ง Nike ลดราคา 80% แล้วเราจำ Logo หรือ ชื่อร้านได้ และถ้าอยากดูรายละเอียดเพิ่ม ก็สามารถใช้ Search ค้นหาเพิ่มต่อได้ จะเห็นได้ว่าโฆษณา Google Search สนับสนุน การขายได้เป็นอย่างดี

SEO ขาดไม่ได้ในการทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับ

ทีนี่ขอพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยละกัน หลายคนๆ คงเคยได้ยิน ได้เห็น กันบ่อยๆ เกี่ยวกับ SEO (Search Engine Optimization) คือ การทำให้เว็บไซต์ ติดอันดับหน้าแรกหรืออันดับต้นๆ ในผลการค้น หรือ Search Result Page บน Google การเพิ่มเว็บ Traffic ให้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการการใช้ Keyword ให้ถูกต้องว่าเราต้องการโปรโมทอะไรเกี่ยวกับเว็บ ซึ่งมีองค์ประกอบและเทคนิคการทำอีกมากมายในการทำ ซึ่งเราค่อยมาว่ากันต่อไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ และองค์ประกอบหลักๆ ในการทำ SEO เช่น

• Website Structure (โครงสร้างเว็บไซต์) เป็นแผนผังหรือโครงสร้างเว็บไซต์ จัดกลุ่มเนื้อหาที่ชัดเจน ลดหลั่นระดับความสำคัญของแต่ละเนื้อหา
• Content เช่น ภาพ วีดีโอ มีการใส่ชื่อภาพ ชื่อวีดีโอ แทรก Keyword กำหนด H1, H2, H3
• Link เช่น Internal link มีการเชื่อมโยงภายในระหว่างโพสหรือเพจ และ Backlink เป็น Link ภายนอกที่วิ่งกลับเข้ามาหาเว็บคุณ มีผลต่อ SEO

การทำ SEO ในลักษณะนี้ ไม่ต้องใช้เงินในการทำก็จริง (แต่ต้องทำเป็นนะ ถ้าทำไม่เป็นก็ต้องจ้าง คิดเป็น keyword แพงอยู่นะ) แต่ก็ต้องลงมือลงแรงทำแบบเป็นจริงเป็นจังเลย เช่น backlink, keyword, pagespeed, content, updating, Title, description และยังต้องมีเครื่องมืออื่นๆ ในการเช็คอันดับ ต้องปรับแก้ตรงไหน เพื่อดันอันดับของเว็บไซต์ให้อยู่หน้าแรกหรืออันดับต้นๆ การทำแบบนี้ค่อนข้างใช้เวลานานเพราะใน Internet มีเป็นแสนเป็นล้านเว็บไซต์ กว่าจะถึงคิวที่ Google bot จะเข้ามา claw ในเว็บไซต์เรา ทำความรู้จักว่าเว็บไซต์เรา มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร 5 เดือน – 1 ปี มีแน่นอน ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานมาก   ภาพตัวอย่างการค้นแบบ Organic หรือ SEO   แต่ถ้าใครรอไม่ไหวในการทำ SEO เพราะใช้เวลาค่อนข้างนาน ก็ต้องนี้เลย การทำโฆษณา Google Search  ซึ่งก็เป็นทางลัดในการทำให้อันดับเว็บไซต์เราอยู่หน้าแรกหรืออันดับๆ ต้น และยังสามารถเพิ่มพื้นที่โฆษณาให้ใหญ่กว่าคู่แข่งได้ ทำให้โดดเด่นกว่าได้เลย โดยการทำ Ad Extensions เช่น เบอร์โทร, แผนที่, ภาพ, callout และยังสามารถใส่ Google Map แทรกเข้าไปในโฆษณาได้อีกด้วย ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากในการแข่งขันด้านการตลาดในปัจจุบันที่ค่อนข้างรุนแรงและเข้มข้น

ทำโฆษณา Google Search จะทำยังไงให้โฆษณาเราหน้าหนึ่งหรืออยู่ในอันดับต้นๆ ของโฆษณา

ยิ่งถ้าทำให้โฆษณามี Quality Score ดีๆ โอกาสที่จะได้อันดับต้นๆ มีสูงมากและรวดเร็วอีกด้วย ไม่ต้องมาลุ้นว่าถ้าทำ SEO แล้ว Google จะจัดอันดับ ให้เราที่เท่าไหร่ หน้าไหน เราอยากจะเขียนข้อความโฆษณา ปรับแต่งเพื่อให้ตรงกับกลุ่มหมาย สามารถทำได้ทันที มีโปรโมชั่น มีลด แลก แจก แถม สามารถใส่ได้เต็มที่เลยเพราะทำโปรโมชั่น มีระยะเวลา การทำโฆษณามันต้องรวดเร็ว แต่การทำ SEO ไม่สามารถรองรับจุดนี้   ภาพตัวอย่างการค้นหาด้วยการทำโฆษณาใน Google Search Ads  

ทำโฆษณา Google Search มี 3 อย่างนี้ จะทำให้โฆษณาเรามีประสทธิภาพ ได้คะแนนสูง (Quality Score)

1. Targeting หรือ Keyword เราต้องหาคำหลักให้ตรงกับการค้นหาของ user เพื่อ trigger ให้โฆษณาของเราแสดงผล ซึ่งเราสามารถใช้ Keyword Planner ในการหาว่าเราต้องใช้คำค้นหาไหนในการทำโฆษณา และต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ต่อ keyword ในการทำโฆษณา และสามารถวางแผนการใช้เงินโฆษณาต่อเดือนเท่าไหร่ 2.  Relavance หรือ ความเกี่ยวข้องในสิ่งที่ user ค้นหาแล้ว ผลการค้นหาตรงกับความต้องการ หรือ ใกล้เคียงมีความสัมพันธ์กับการค้นหานั้นๆ เช่น อยากได้รองเท้าวิ่งผู้ชาย ผลลัพธ์ของการค้นหาต้องเป็นรองเท้าวิ่งผู้ชาย จะเป็นเสื้อ กางเกง จักรยาน ไม่ได้ เพราะไม่เกี่ยวข้องเลย ถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้โฆษณาของเรามีคะแนนคุณภาพของโฆษณาไม่ดี (Quality Score) คนก็จะไม่คลิกโฆษณาและโฆษณาของเราก็จะไม่แสดงผล 3. Landing Page หรือ จะเรียก Sale Page ก็ได้นะครับ เมื่อลูกค้าคลิกที่โฆษณาแล้ว เราอยากให้ไปจบที่หน้าไหน เช่น หน้าขาย หน้าลงทะเบียน เป็นต้น การทำโฆษณา Google Search ทุกอย่างที่เป็นองค์ประกอบต้องมีความสัมพันธ์กับ เกี่ยวข้องกัน ถึงจะทำให้โฆษณามีประสิทธิภาพ เมื่อโฆษณาเราแสดงผลบ่อย มีคนคลิกเยอะ จะทำให้ค่าโฆษณาถูกลงและยังได้อันดับต้นๆ หรือ หน้าแรกของผลการค้นหาด้วย   มาถึงตรงนี้เพื่อให้ได้ภาพกว้างของการทำโฆษณา Google Search ที่มี Keyword เป็นพระเอก Keyword Math Type แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ 1. Broad match : จะแสดงผลคำค้นหาที่ใกล้เคียงกับคำหลัก ไม่ได้ตรงแปะแบบ 100% เป็นคำค้นหาแบบกว้างๆ พวกคำใกล้เคียง คำสะกดผิด จะแสดงผลด้วย 2. Phrase match มีสัญลักษณ์ “……..” (ภาษาไทยเรียกเครื่องหมายฟันหนู) โฆษณาจะแสดงผลกับความหมายของคำหลักนั้น อาจจะมีความหมายเป็นนัย ไม่ได้ตรงซะทีเดียว 3. Exact match แสดงแบบเจาะจง มีสัญลักษณ์ “[ ]” โฆษณาเราจะแสดงผลก็ต่อเมื่อมีคนใช้คำเดียวกันในการค้นหา เช่น lawn moving service   ไปอ่านต่อ ตอนที่ 2