เลือกอ่านหัวข้อที่ต้องการได้เลย
โฆษณา Google Search Ads ต่อจากตอนที่ 1
ภาพตัวอย่างการหา Keyword จาก semrush.com
ภาพตัวอย่างการหา Keyword จาก Google Analytics
วิธีการเหล่านี้อาจจะดูมีขั้นตอนหน่อย เพราะว่าแต่ละคนมีการค้นหา keyword ที่แตกต่างกัน บางคนใช้เป็นคำ บางคนใช้เป็นประโยค หรือ บางคำที่เราคาดไม่ถึงก็มีเช่นกัน แต่ผมคิดว่าคุ้มนะ ที่เราอาจจะยอมเสียเวลาหน่อยในการค้นหา keyword ที่ใช่ เพราะว่า การทำโฆษณาแบบ Search คือ เราต้องการให้คนเข้ามาคลิกที่โฆษณาเรา และเราส่งลูกค้าไปหน้า Sale page หรือ Landing page เพื่อให้เกิดการขายหรือ Action ที่เราต้องการ เพราะคนที่มาค้นหาสินค้าหรือบริการใน Google เขามีความต้องการซื้อเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการทำ
โฆษณา Google Search ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการทำโฆษณาแต่ละแคมเปญ บางคนอาจจะใช้แบบ Phrase match หรือ Exact match ก่อน เพื่อให้ได้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อจริงๆ หรือ อาจจะด้วยงบประมาณที่จำกัด หรือบางคนอาจจะใช้วิธีการแบบเริ่มจากกว้างๆ ก่อนโดยใช้ Broad match หรือ Broad match modifier เพื่อให้ระบบช่วยหาว่า keyword ไหนที่คนใช้ในการค้นหาสินค้าหรือบริการ จากนั้น เราค่อยมาเลือก keyword ที่คนค้นหาเยอะ เอามาทำแคมเปญโฆษณาอีกที เพื่อให้ประสิทธิภาพโฆษณามีมากยิ่งขึ้น ซึ่งการหา keyword ว่าคำไหนมีการค้นหาจำนวนเท่าไหร่ต่อเดือน มันมีเครื่องมือในการหาอยู่หลายตัว เช่น Google keyword planner, sermrush, KWFinder, keywordtool, wordstream, ahrefs หรือ ubersuggest เครื่องเหล่านี้จะรวบรวามสถิติมาให้ดูเป็นตัวเลข ซึ่งจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าจะต้องเอา keyword ไหนมาใช้ในการทำโฆษณาหรือเขียนบทความ
เช็ค Keyword ด้วยเครื่องมือ
เราสามารถเช็ค keyword ได้หลายวิธีว่าลูกค้าใช้คำค้นหาไหนอีกเพื่อหาสินค้าและบริการ เช่น การใช้ Google Analytics > Acquisition > Search console > Queries มันจะแสดงสถิติมาให้เห็นเลยว่าลูกค้าใช้คำไหนค้นบ้าง หรือ เราสามารถเช็คจากโฆษณาเคมเปญโฆษณาใน Search ได้เหมือนกัน ให้เข้าไปที่ Campaign > Keyword > Search Terms สถิติจะบอกได้ว่ามีคำไหนบ้างที่ลูกค้าใช้ค้นหา จำนวนคลิกเท่าไหร่ Impression เท่าไหร่ ค่าเฉลี่ยต่อคลิกเท่าไหร่
เราจ่ายตังค์เมื่อมีคนคลิก
และข้อดีอีกอย่างที่ผมชอบมากๆ คือ เราจะจ่ายโฆษณาเฉพาะเมื่อมีคนคลิกโฆษณาของเราเท่านั้น ถ้าไม่คลิก ไม่เสียเงิน เราจะได้ Impression แสดงโฆษณาในระบบฟรีเลย แต่นะแต่ ข้อเสียของมันก็มีเช่นกัน เพราะถ้าคนไม่คลิกโฆษณาของเราเลย แสดงการโฆษณาของเราไม่น่าสนใจหรือไม่มีประสิทธิภาพพอ เมื่อคนไม่คลิกโฆษณาเรา ระบบของ Google จะเอาโฆษณาของคนอื่นที่มีคนคลิกเยอะกว่า มีประสิทธิภาพกว่ามาแทนโฆษณาของเรา ทำให้โฆษณาเราตกอันดับ และเราต้องมาปรับแต่งโฆษณาหรืออาจจะต้องเพิ่มค่าคลิกเพื่อให้โฆษณาของเราแข่งกันคนอื่นได้ เพราะ Google Ads ใช้ระบบคะแนนโฆษณาควบคุมขั้นตอนนี้อยู่ ผมว่าหลายคนคงเคยเห็นโฆษณาใน Youtube, Facebook, Line หรือแม้กระทั่ง Tiktok ในขณะที่เรากำลังดูภาพหรือวีดีโอ แล้วก็มีโฆษณาแทรกมาอาจจะเป็นโปรโมชั่นลดราคา แล้วก็เราไม่ได้สนใจ พออีกสัก 2-3 วันต่อมา เราเหมือนจะจำได้ว่ามีสินค้าตัวนี้กำลังลดราคาอยู่ อยากเข้าไปดู อยากเข้าไปหาข้อมูลสินค้าตัวนี้ ต้องทำยังไงครับ? แน่นอน Google Search เป็นตัวเลือกแรกๆ ในการค้นหาข้อมูลที่เราต้องการ เพราะมันเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสก็เจอแล้ว จากการยกตัวอย่าง จะเห็นได้ว่าการทำโฆษณา Google Search มีความสำคัญมากๆ ในการทำการตลาดในปัจจุบัน รองกับแทบจะทุก Platform ในตอนนี้ จากตอนนี้ที่ 1 ที่เอาสถิติมาให้ดู คือในประเทศไทย (อ้างอิงจาก Truehits.com, 7 กค 64) มีการใช้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเว็บไซต์มากถึง 99.95% จำนวนครั้งการค้นหา 14,997,571 ครั้ง/วัน จำนวนการเยี่ยมชม 54.55 ล้านฮิต
สรุป
ไม่ธรรมดาเลยนะครับ คนไทยเราใช้ Google ในการค้นหามาถึง 99.95% หรือ แทบจะเรียกได้ว่าอยากรู้อะไรก็ต้อง Google ซึ่งเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลขนาดใหญ่ สินค้าหรือบริการแทบทุกประเภทอยู่ในระบบการค้นหา โฆษณา Google Search มีความสามารถที่เพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ เพิ่มยอดการโทร ยอดคนลงะเบียนหรือถ้าจะเรียกลูกค้าให้มาที่หน้าร้านได้ได้เลย การทำโฆษณาบน Google เราสามารถเลือกวัน เวลา กลุ่มเป้าหมาย พื้นที่ ที่จะทำให้ลูกค้าหาธุรกิจคุณเจอ และทำให้ธุรกิจคุณมีโอกาสเพิ่มยอดขายและกำไรได้จดโดเมน เช่าโฮสติ้ง (มีส่วนลด)
โฆษณา Google Search Ads หาอะไรก็เจอ ตอนที่ 2