จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจงกว่า ไม่หว่านจนเกินไป ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าจริงๆ ได้แม่นกว่า board match และมีโอกาสที่คนจะคลิกโฆษณาก็มีสูงอีกด้วย
มาดูตัวอย่างการใช้ Phrase match ของลูกค้ารายนี้
คำที่ 1 “lawn mowing service near me” มีคำต่อท้าย คือ “near me” โฆษราจะแสดงผลให้ถึงแม้จะมีคำมาท้าย
คำที่ 2 “hire company to mow lawn” ลูกค้าใช้คำค้นที่ไม่ได้ตรงกับคำว่า “lawn moving service” แต่โฆษณาก็แสดงผลให้ เพราะมีความหมายเดียวกัน
คำที่ 3 “landscaping service to cut grass” คนที่ใช้คำนี้ในการค้นหา ก็สามารถแสดงผลโฆษณาได้เช่นกัน เพราะมีความหมายเดียวกับ “lawn mowing service คือ บริการรับตัดหญ้า
3. Exact match แสดงแบบเจาะจง มีสัญลักษณ์ “[ ]” โฆษณาเราจะแสดงผลก็ต่อเมื่อมีคนใช้คำเดียวกันในการค้นหา เช่น lawn moving service แต่ในปัจจุบัน Google Ads ได้พัฒนาความสามารถให้เพิ่มขึ้น เช่น เมื่อคนใช้คำว่า “grass cutting service” โฆษณาของเราก็มีสิทธิขึ้นแสดงผลได้เช่น ถึงแม้จะไม่ได้ตรงแบบ 100%