เลือกอ่านหัวข้อที่ต้องการได้เลย
ชนิดของ Keyword
Keyword คือ คำหลายคำ หรือ กลุ่มคำ จะถูกเอาไปใช้เพื่อทำโฆษณา คำหรือกลุ่มคำเหล่านั้น
ก็ต้องตรงหรือใกล้เคียงกับคำที่ลูกค้าใช้ search หาสินค้าหรือบริการ
ถ้าลูกค้ามีการค้นหา โฆษณาของเราจะแสดงผล และมีโอกาสที่ได้ถูกคลิก เพื่อให้
พาไปหน้า landing page หรือ sale page
แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ
ตัวอย่างการใช้คำหลัก “lawn moving service” หรือ รับตัดหญ้า
1. Board match : จะแสดงผลคำค้นหาที่ใกล้เคียงกับคำหลัก ไม่ได้ตรงแปะแบบ 100%
คนนี้ใช้คำค้นหา “lawn aeration prices” โฆษณาของเราก็สามารถแสดงผลได้ ถึงแม้จะไม่ได้ตรงทุกคำ เพราะความสามารถของ board match คือ จะแสดงคำที่ใกล้เคียง ที่โฆษณาเราแสดงผลได้เพราะมีคำว่า “lawn” อยู่ในคำหลักนั้นด้วย
2. Phrase match มีสัญลักษณ์ “……..” (ภาษาไทยเรียกเครื่องหมายฟันหนู) โฆษณาจะแสดงผลกับความหมายของคำหลักนั้น อาจจะมีความหมายเป็นนัย ไม่ได้ตรงซะทีเดียว คำหลักประเภทนี้ยืดหยุ่นกว่า “exact match” แต่จะเจาะจงกว่า “board math”
จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจงกว่า ไม่หว่านจนเกินไป ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าจริงๆ ได้แม่นกว่า board match และมีโอกาสที่คนจะคลิกโฆษณาก็มีสูงอีกด้วย
มาดูตัวอย่างการใช้ Phrase match ของลูกค้ารายนี้
คำที่ 1 “lawn mowing service near me” มีคำต่อท้าย คือ “near me” โฆษราจะแสดงผลให้ถึงแม้จะมีคำมาท้าย
คำที่ 2 “hire company to mow lawn” ลูกค้าใช้คำค้นที่ไม่ได้ตรงกับคำว่า “lawn moving service” แต่โฆษณาก็แสดงผลให้ เพราะมีความหมายเดียวกัน
คำที่ 3 “landscaping service to cut grass” คนที่ใช้คำนี้ในการค้นหา ก็สามารถแสดงผลโฆษณาได้เช่นกัน เพราะมีความหมายเดียวกับ “lawn mowing service คือ บริการรับตัดหญ้า
3. Exact match แสดงแบบเจาะจง มีสัญลักษณ์ “[ ]” โฆษณาเราจะแสดงผลก็ต่อเมื่อมีคนใช้คำเดียวกันในการค้นหา เช่น lawn moving service แต่ในปัจจุบัน Google Ads ได้พัฒนาความสามารถให้เพิ่มขึ้น เช่น เมื่อคนใช้คำว่า “grass cutting service” โฆษณาของเราก็มีสิทธิขึ้นแสดงผลได้เช่น ถึงแม้จะไม่ได้ตรงแบบ 100%